Girl Variety

ชุมชนสำหรับผู้หญิง

วิตามินดี มีความสำคัญกับร่างกายอย่างไร? และมีส่วนช่วยในเรื่องใด

| By

วิตามินดี

วิตามินดี (vitamin D) ที่เราทุกคนนั้นต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่รู้จัก และ ไม่ให้ความสำคัญ กับวิตามินตัวนี้ เพราะเข้าใจว่า วิตามินดี นั้นสามารถสร้างขึ้นได้ในร่างกายหลังจากถูกแสงแดด แต่ในยุคสมัยปัจจุบันนั้น การใช้ชีวิตของคนเมืองส่วนใหญ่ ก็มักจะนั่งทำงานในออฟฟิตเป็นส่วนมาก เป็นผลให้คนเมืองนั้นมักจะขาดวิตามินดี โดยไม่รู้ตัว

เป็นที่ทราบกันดีว่า วิตามินดีนั้นมีหน้าที่หลัก ในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสารอารหารที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโต ของกระดูกและฟัน และยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพุน และ กระดูกบาง ได้อีกด้วยเช่นกัน

ในวิตามินดี ยังมีความสำคัญต่อสุขภาพอื่นๆของเราอีกด้วย อาทิเช่น โรคความดันโลหิตสูง ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยต้านโรคมะเร็งต่างๆ และรวมไปถึงการช่วยเพิ่มสรรถภาพทางร่างกายในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม

วิตามินดี มีความสำคัญกับร่างกายอย่างไร?

วิตามินดีมีความสำคัญ ต่อความแข็งแรงของกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อ การขาดวิตามินดี อาจส่งผลให้ นำไปสู่ความผิดปกติของกระดูก ที่เรียกว่า โรคกระดูกออ่นในเด็ก และโรคกระดูกน่วมใผู้ใหญ่ มีการศึกษาพบว่า การเสริมวิตามินดี นั้นจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และยังช่วยให้การทรงตัว และการทำงานของกล้ามเนื้อดีขึ้น ยังช่วยในเรื่อง การเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว และยังสามารถลดอุบัติเหตุในผู้สูงอายุได้เช่นกัน

เพราะฉนั้นแล้ว การได้รับวิตามินดีที่เพียงพอ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดกระดูกหัก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในกลุ่มของผู้สูงอายุ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทำให้กระดูกหักแล้วจะมีผลกระทบตามมาอีกมากมาย เลยทีเดียว

ดยร่างกายของเราจะได้รับวิตามินดี 2 ทางด้วยกัน นั้นก็คือ

อาหาร ซึ่งในอาหารนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ โดยวิตามินดี มีอยู่ในจำพวกอาหาร ประเภท ปลาแซลม่อน หรือปลาแมคคอแรลที่สุกแล้ว และ ทูน่ากระป๋อง โดยในต่างประเทศ มีการเพิ่มเติมวิตามินดี ใส่ลงไปในอาหาร จำพวก นม น้ำส้ม โยเกิร์ต หรือแม้กระทั่งธัญพืชในอาหารเช้าที่ใส่วิตามินดีเสริม

ในส่วนของ วิตามินดีในอาหาร ในแต่ละวัน อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะในอาหารที่ มีวิตามินดีสูง นั้นมีอยู่จำกัด จึงควรรับวิตามินดี จากแสงแดดอย่างเหมาะสม ในผู้สูงอายุ ที่มีอายุน้อยกว่า 70 ปี ควรได้รับวิตามินดี วันละ 600 IU และผู้สูงอายุ 70 ปี ขึ้นไป นั้น ควรรับวิตามินดีวันละ 800 IU เนื่องจากในผู้สูงอายุ มีการสร้างกระดูกน้อยลง

แสงแดด การที่เราจะได้รับวิตามินดี จากแสงแดดนั้น จำเป็นที่จะต้องให้ผิวหนังได้สัมผัสกับแสงอาทิตย์ เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที ในทุกๆวัน โดยการใส่เสื้อแขนสั่น กางแกงขาสั่น ในวิตามินดี 3 จะทำการสังเคราะห์ให้ผิวหนังของเราจากรังสี UVB ซึ่งเป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นสั้น ทำให้ตกกระทบผิวหนังชั้นนอกสุด หรือหนังกำพร้า เป็นผิวบริเวณที่สังเคราะห์วิตามินดี

ในแหล่งวิตามินดี ตามธรรมชาตินั้น หรือที่เรียกว่าแสงแดง จะมีรังสี Ultraviolet B (UVB) ที่ทำให้ร่างกายสังเคราะห์ วิตามินดีได้ดี ในช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ตั้งแต่ 0.800-10.00 น. และ 15.00-17.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดนั้นไม่แรง และไม่ทำอันตายต่อผิวหนังมากเกินไป

ภาวะการขาดวิตามินดี เกิดจากอะไร?

  • เกิดจากการได้รับ วิตามินดีจากอาหารที่รับประทานไป ไม่เพียงพอ โดยพบในบุคคลที่รับประทาน มังสวิรัติ และ บุคคลที่ไม่รับประทานเนื้อปลา ซึ่งมีแนวโน้มได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอในแต่ละวัน
  • ได้รับแสงแดด ไม่เพียงพอ ในการหลีกเลี่ยงแสงแดด รวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด นั้นล้วนส่งผลให้การ สังเคราะห์วิตามินดี จากผิวหนังลดลง
  • เกิดจากความบกพร่อง ของการดูดซึมวิตามินดีผ่านทางเดินอาหาร โดยโรคที่ส่งผล ที่ทำให้การดูดซึมวิตามินดีลดลง เช่น Celiac disease, Crohn’s disease เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมาจากการ ผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก ก็มีส่วนทำให้การดูดซึม วิตามินดีลดลงได้
  • ในการรับประทาน ยา บางชนิด เช่น ยากันชัก ยาขยายหลอดลม ยารักษาวัณโรคบางชนิด อาจส่งผลให้ร่างกายนั้น เปลี่ยนวิตามินดีไปอยู่ในรูปแบบที่ไม่ออกกฤทธิ์ มากขึ้น

ใครบ้างที่มีภาวะขาดแคลเซียมและวิตามินดี

  • ในผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย หรือผู้ที่ออกกำลังกายในที่ร่ม
  • ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในอาคาร หรือที่ร่มโดยไม่ได้รับแสงแดดที่เพียงพอ
  • ในผู้ที่รับประทานอาหร ที่มีปริมาณวิตามินดีน้อย
  • ผู้ที่มีภาวะแพ้นม
  • ในผู้ที่ดื่มกาแฟเกินขนาด
  • ผู้ที่มีโคร่งร่างเล็ก ผอม
  • ในครอบครัว มีประวัติเป็นโรค กระดูกพรุน

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/97

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://girlvariety.com/ ชุมชนสำหรับผู้หญิง