วิตามินซี ดียังไง มีประโยชน์อะไร ควรกินแค่ไหน จึงจะได้ผลดีต่อสุขภาพมากที่สุด
| By joy
วิตามินซี หรือ Vitamin C ถือเป็นอาหารเสริมยอดนิยม สำหรับสาว ๆ หลายคนในยุคนี้ เพราะกินแล้วเต็มไปด้วยประโยชน์ที่มากมายต่อสุขภาพ Girl Variety จึงมีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำคุณผู้อ่าน ว่าควรกินวิตามินซีเท่าไหร่ และควรกินอย่างไร จึงจะเพียงพอ และได้ผลดีต่อสุขภาพมากที่สุด เพื่อไม่ให้คุณสาว ๆ ต้องเสียเปล่า จากการกินวิตามินซี
วิตามินซี มีทั้งหมดกี่แบบ
1 วิตามินซีแบบอัดเม็ด
วิตามินซีแบบนี้ ถือเป็นรูปแบบที่พบเจอได้มากที่สุด สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน และง่ายต่อการพกพา โดยมีขนาดยอดนิยมอยู่ 2 แบบ คือ 500 มิลลิกรัม และ 1,000 มิลลิกรัม โดยหากจะกินวิตามินชนิดอัดเม็ด ควรแบบ Buffered, Sustained Release หรือ Slow Release เพราะทั้ง 3 แบบนี้ ตัววิตามินซีจะค่อย ๆ ปล่อย จากเม็ดยาแบบช้า ๆ ทำให้วิตามินซีออกฤทธิ์ได้นานขึ้น และไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
2 วิตามินซีแบบเคี้ยว
โดยปกติแล้วจะมีขนาด 30 มิลลิกรัม มักมีรสหวาน จึงเหมาะกับเด็ก ๆ แต่ก็ต้องระวังเรื่องน้ำตาลด้วย เพราะอาจส่งผลให้ฟันผุได้
3 วิตามินซีแบบอม
มักมีขนาดตั้งแต่ 25-500 มิลลิกรัม ต้องระวังว่า การอมวิตามินซีบ่อย ๆ นั้น กรดที่ออกมาจากวิตามินซี จะทำให้เคลือบฟันบาง จนถึงขั้นฟันกร่อนได้
4 วิตามินซีแบบเม็ดฟู่
วิตามินซีชนิดนี้ เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องดูดซึม และเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ดขนาดใหญ่ได้ มักมีขนาด 500 มิลลิกรัม และ 1,000 มิลลิกรัม วิธีการกินคือ ต้องนำไปละลายในน้ำ จนฟองหมด แล้วค่อยดื่ม เพื่อป้องกันการเกิดแก๊ส และเกิดการแน่นท้องภายหลังจากกินได้
5 วิตามินซีแบบฉีด
มักจะมีขนาด 500 มิลลิกรัม เป็นวิตามินซีที่ออกฤทธิ์เร็ว ร่างกายสามารถเอาไปบำรุง และซ่อมแซมได้ทันที เพราะไม่ต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะอาหาร จึงเป็นวิตามินซีที่เหมาะกับการป้องกันหวัดที่สุด แต่ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนเข้ารับการฉีด
6 วิตามินซีแบบแคปซูล
วิตามินซีแบบนี้ จะมีทั้งแบบแคปซูลแข็ง และแบบแคปซูลนิ่ม มีขนาด 500 มิลลิกรัม สามารถกลืนได้ง่าย กว่าวิตามินซีรูปแบบอัดเม็ด
ประโยชน์ของวิตามินซี
- ช่วยในการรักษา และป้องกันโรคหวัด
- ช่วยในการรักษาแผลสดให้หายเร็วยิ่งขึ้น
- ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส และแบคทีเรียหลายชนิด
- ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก
- ช่วยลดอาการที่เป็นผลมาจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- ช่วยเร่งให้แผลหลังผ่าตัดหายเร็วยิ่งขึ้น
- ถ้าหากกินวิตามินซีเป็นประจำ จะช่วยให้ผิวใส เนียน และนุ่มลื่น อย่างเป็นธรรมชาติ
ปริมาณวิตามินซีที่ควรกินใน 1 วัน
สำหรับคนปกติทั่วไป ควรกินพร้อมอาหารมื้อเช้า และมื้อเย็น เพราะวิตามินซีจะถูกขับออก ภายใน 2 ถึง 3 ชั่วโมง
สำหรับคนที่ป่วยเป็นหวัด ควรกินวิตามินซีขนาด 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้น้ำมูกไหลลดลงได้
สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ควรกินวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม เพื่อช่วยลดสารอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือด และยังช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังสามารถกินวิตามินซีร่วมกับ แคลเซียม แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินซีได้
หากกินวิตามินซีมากเกินไป จะมีอันตรายหรือไม่
คนที่ร่างกายได้รับวิตามินซีมากเกินไป จะอาการคือ ปวดท้องเกร็ง ท้องเสีย ท้องอืด และคลื่นไส้ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับคนที่กินวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก เช่น กินวิตามินซีมากถึง 8,000 มิลลิกรัมขึ้นไป
อีกทั้งวิตามินซียังช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย เมื่อกินมากไป อาจทำให้เกิดการสะสมธาตุเหล็ก ตามกระดูกข้อต่อต่าง ๆ จนทำให้เป็นเกาต์ และเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้
ตัวอย่างผักและผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูง
- พริกหวาน
- บรอกโคลี
- ผักคะน้า
- ผักปวยเล้ง
- ใบมะรุม
- มะขามป้อม
- มะเขือเทศ
- สตรอเบอร์รี่
- ฝรั่ง
- ลิ้นจี่
- ส้ม
อย่าลืมว่า วิตามินซีไม่ใช่สารอาหารอย่างเดียว ที่ทำให้สุขภาพดี และแข็งแรงได้ สาว ๆ จึงควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน รวมทั้งควรออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.bangkokhospital.com/content/know-vitamin-c-deeply
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่ Girl Variety ชุมชนสำหรับผู้หญิง