Girl Variety

ชุมชนสำหรับผู้หญิง

วันสารทจีน 22 สิงหาคมนี้ คือวันอะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ควรไหว้อะไรบ้าง

| By

วันสารทจีน

วันสารทจีน ประจำปี 2564 นี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม ถือเป็นวันสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่จะได้แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ผ่านพิธีเซ่นไหว้ และเป็นเดือนที่ประตูนรก ได้เปิดให้วิญญาณทั้งหลาย มารับผลบุญได้ด้วย

โดยประเพณีสารทจีน ถือเป็นประเพณีที่ทำให้ครอบครัว ได้กลับมาเจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ได้กลับมาทำกิจกรรมร่วมกัน และได้แสดงความกตัญญู ต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว

วันสารทจีน มีประวัติความเป็นมาอย่างไร

มีตำนานเรื่องเล่า เกี่ยวกับวันสารทจีน อยู่ 2 ตำนาน ดังนี้

1 ตำนานเกี่ยวกับยมบาล

มีการเล่ากันไว้ว่า วันสารทจีนเป็นวันที่ ยมบาลตรวจดูตรวจดูบัญชีวิญญาณคนตาย จากนั้นก็จะ ส่งวิญญาณดีขึ้นสวรรค์ และส่งวิญญาณร้ายลงนรก ชาวจีนรู้สึกสงสารวิญญาณร้าย จึงทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณร้าย จึงมีการเปิดประตูนรก เพื่อให้วิญญาณร้ายออกมารับผลบุญได้

2 ตำนานเกี่ยวกับมู่เหลียน หรือพระมหาโมคคัลลานะ

เป็นตำนานที่เล่าขาน เกี่ยวกับมู่เหลียน หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ พระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นคนที่เคร่งครัดในพุทธศาสนามาก แต่แม่ของมู่เหลียน กลับไม่เคยเชื่อเรื่องนรกหรือสวรรค์เลย อีกทั้งยังเป็นคนใจบาปหยาบช้าด้วย

เหตุการณ์เกิดขึ้น ตอนปีหนึ่งในช่วงเทศกาลกินเจ แม่ของมู่เหลียน เกิดความหมั่นไส้คนที่ถือศีลกินเจ จึงสั่งให้มู่เหลียน ไปเชิญผู้ถือศีลกินเจ มากินอาหารที่บ้าน โดยจะทำอาหารเลี้ยงหนึ่งมื้อ

ทำให้ผู้ถือศีลกินเจที่ได้รับคำเชิญ ต่างก็ยินดี ที่แม่ของมู่เหลียน เกิดมีความศรัทธาขึ้นมา และพากันมากินอาหารที่บ้านของมู่เหลียน โดยที่ไม่ทราบเลยว่า มีน้ำมันหมูเจือปนอยู่ในน้ำแกงเจ

สิ่งที่แม่ของมู่เหลียนได้กระทำนั้น ถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อแม่ของมู่เหลียนตายไป จึงตกนรกขุมที่ 8 ซึ่งเป็นนรกขุมที่ลึกที่สุด และต้องได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส

มู่เหลียนคิดถึงแม่ จึงได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรก และได้เห็นว่า แม่ของตนเองต้องอดอยาก จึงพยายามป้อนอาหารให้แม่ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเม็ดข้าวสุกที่ป้อนแม่ไปนั้น กลับกลายเป็นไฟ ที่เผาไหม้ริมฝีปากของแม่มู่เหลียนจนพอง แถมยังโดนผีตนอื่น ๆ รุมแย่งอาหารไปจนหมด

มู่เหลียนรู้สึกสงสารแม่มาก และยังเป็นผู้มีความกตัญญูอีกด้วย จึงได้ขอยมบาล เพื่อจะรับโทษแทนแม่ แต่พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมา และกล่าวกับมู่เหลียนว่า “กรรมใดใครก่อ ก็ย่อมจะเป็นกรรมของผู้นั้น”

จากนั้นพระพุทธเจ้าก็ได้มอบ คัมภีร์อิ๋ว หลันเผิน ให้มู่เหลียนท่อง เพื่อเรียกเซียน ให้มาช่วยแม่ของเขา ให้หลุดพ้นจากการอดอยาก และทุกข์ทรมานได้ โดยที่มู่เหลียนจะต้องสวดคัมภีร์อิ๋ว หลันเผิน และถวายอาหารทุกปี ในเดือนที่ประตูนรกเปิด จึงจะช่วยแม่ของเขาให้พ้นจากโทษที่ได้รับ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวจีนจึงถือเป็นประเพณี และได้ปฏิบัติสืบต่อมากัน ด้วยการทำพิธีเซ่นไหว้ ทั้งอาหารคาวหวาน และยังนำกระดาษเงินกระดาษทอง ไปวางไว้ที่หน้าบ้าน เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ ของวิญญาณเร่ร่อนทั้งหลาย ที่จะผ่านมาใกล้บ้านของตัวเอง

พิธีการเซ่นไหว้ ในวันสารทจีน

โดยปกติแล้ว วันสารทจีนจะมีการจัดชุดเซ่นไหว้ แบ่งออกเป็น 3 ชุด คือ

ชุดที่ 1 สำหรับไหว้เจ้าที่

การไหว้เจ้าที่ จะไหว้ในตอนเช้า มีอาหารคาวหวาน และขนมไหว้ที่ต้องมีเป็นพิเศษ คือขนมเทียน และขนมเข่ง ซึ่งต้องแต้มจุดสีแดงไว้ตรงกลาง เพราะชาวจีนมีความเชื่อที่ว่า สีแดงเป็นสีแห่งความเป็นศิริมงคล และยังต้องมี ผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน และกระดาษเงินกระดาษทองด้วย

ชุดที่ 2 สำหรับไหว้บรรพบุรุษ

ของที่เตรียมไว้สำหรับไหว้ จะคล้ายกับของไหว้เจ้าที่ และต้องเตรียมกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบกินไว้ด้วย นอกจากนี้ ตามธรรมเนียมจะต้องมี น้ำแกงหรือขนมน้ำใส ๆ วางไว้ข้างชามข้าวสวย และยังต้องเตรียมน้ำชา ไว้ตามจำนวนของบรรพบุรุษ ส่วนสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือขนมเทียน ขนมเข่ง ผลไม้ และกระดาษเงินกระดาษทอง

ชุดที่ 3 สำหรับไหว้สัมภเวสี

สัมภเวสีก็คือวิญญาณเร่ร่อน หรือวิญญาณไม่มีญาติ ชาวจีนเรียกผีไม่มีญาติว่า “พี่น้องที่ดีของเรา” โดยจะไหว้สัมภเวสีที่นอกบ้าน ซึ่งของไหว้ก็จะมี ทั้งคาว หวาน และผลไม้ ส่วนที่ต้องมีเป็นพิเศษคือ ข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ่ง เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง

ทั้งนี้ อาหารคาวหวานและขนม ที่ชาวจีนเลือกมาไหว้ในวันสารทจีน จะต้องใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด หรือต้องใช้สัตว์ที่ไหว้ได้ทั้งตัว ได้แก่ ปลา หมายถึงลูกหลานมีกินมีใช้, กุ้ง หมายถึงโชคลาภ, ไก่ หมายถึงความก้าวหน้า, หมู หมายถึงมีกินมีใช้ และเป็ด หมายถึงความสมบูรณ์

7 สิ่งที่ห้ามทำในวันสารทจีน

เป็นเพราะความเชื่อของชาวจีน ที่เชื่อกันว่า วันสารทจีนเป็นวันที่ประตูนรกเปิด จึงมีวิญญาณมากมาย ทั้งวิญญาณที่ดีและไม่ดี เดินทางมาที่โลกมนุษย์ ชาวจีนจึงเชื่อว่าไม่ควรทำสิ่งเหล่านี้ เพื่อความปลอดภัย ได้แก่

1 ห้ามว่ายน้ำในตอนกลางคืน

2 ห้ามแต่งงาน

3 ห้ามเริ่มต้นทำธุรกิจ

4 ห้ามอยู่นอกบ้านช่วงกลางดึก

5 ห้ามเดินทาง หรือเดินทางไกล

6 ห้ามซื้อบ้าน และห้ามย้ายบ้าน

7 ห้ามเริ่มงานก่อสร้างใหม่

แต่ในยุคสมัยนี้ บางข้อห้าม ก็อาจจะทำได้ยาก เพราะบางคนอาจต้องทำงานกะดึก หรือบางคนต้องทำงานที่เกี่ยวกับการเดินทาง ดังนั้นทางแก้ก็คือ ให้หมั่นทำสิ่งดีทดแทน เพื่อให้สิ่งดีเหล่านี้ ช่วยให้ปลอดภัย แคล้วคลาด จากภัยอันตรายต่าง ๆ หรือช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ เช่น ทำความดี, รักษาศีล 5, สวดมนต์, มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ บรรพบุรุษ ผู้มีพระคุณ และหลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง หรือสถานที่อโคจร เป็นการชั่วคราว เป็นต้น


ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia

ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่ Girl Variety ชุมชนสำหรับผู้หญิง