Girl Variety

ชุมชนสำหรับผู้หญิง

การดื่มน้ำ อย่างไรที่ทำให้มีสุขภาพดี กับ เทคนิคการดื่มน้ำที่ทุกควรรู้

| By

การดื่มน้ำ

การดื่มน้ำ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะ น้ำ นั้นถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของร่างกาย โดยคิดเป็นร้อยละ 70% ของน้ำหนักตัว ซึ่ง การดื่มน้ำให้ได้ในปริมาณ 8 แก้วต่อวัน ถือว่าเป็นปริมาณที่ดีต่อสุขภาพ

โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน เป็นสิ่งที่ทุกคนนั้นควรฝึกให้เป็นนิสัย เพราะ น้ำ นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายและมีส่วนช่วยทำให้ระบบเมตาบอลิซึมของร่างกายนั้นทำงานได้ดีอีกด้วย แถมยังมีส่วนช่วยในเรื่องของ ผิวพรรณ และ ระบบขับถ่าย รวมไปถึงช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หากเราดื่มน้ำอย่างเหมาะสม และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้วละก็ ยังสามารถช่วยในการ ลดน้ำหนัก ได้อีกเช่นกัน วันนี้เรามาดูไปพร้อมๆกันเลยว่า การดื่มน้ำนั้นสำคัญอย่างไร และมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร

การดื่มน้ำ ดีต่อสุขภาพอย่างไร?

  • ดีต่อระบบประสาท และ สมอง

เพราะ น้ำ นั้นถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของ เลือด ที่สามารถช่วยหล่อเลี้ยงร่างกาย และสมอง ในการดื่มน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายนั้น จะช่วยลดอาการคลายเคลียด ลดอาการปวดศรีษะ และสามารถทำให้ผ่อนคลาย รวมไปถึงการเพิ่มพลังให้กับสมองอีกทางหนึ่ง

  • ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ

ในการดื่มน้ำ นั้นมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณ ไม่เหี่ยวง่าย เพราะน้ำจะทำหน้าที่คอยดูแลเซลล์ให้ลอยอยู่บนน้ำ และทำให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น ช่วยในการเติมเต็มเนื้อเยื่อ ซึ่งทำให้ผิวพรรณนั้นมีความยืดหยุ่น ดูเรียบเนียน มีน้ำมีนวล และยังดูออ่นเยาว์อีกด้วย

  • ช่วยชำระล้างสารพิษ และช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย

เพราะในน้ำ นั้นจะมีการนำพาของเสียให้ออกจากร่างกายได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น อุจจาระ ปัสสาวะ และรูขุมขน

  • ช่วยทำให้อวัยวะต่างๆในร่างกายนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพราะในทุกระบบของร่างกาย นั้นก็ต้องการน้ำไปใช้ทั้งสิ้น เช่น ช่วยในเรื่องการหล่อลื่นในระบบ ของทางเดินอาหาร เชื่อมเซลล์ และช่วยหล่อลื่น ข้อต่อ ต่างๆ รวมไปถึง การช่วยลำเลียงสารอาหารที่มีประโยชน์ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายตลอดเวลา

  • ช่วยส่งเสริมในการทำงานของไต

โดยการเจือจางเกลือ และแร่ธาตุต่างๆที่เป็นต้นเหตุ ที่ทำให้เกิดนิ่ว จึงเป็นส่วนที่ช่วยลดความเสี่ยงของ โรคนิ่วในไตได้

  • ช่วยในการย่อยอาหาร และ ส่งผลดีต่อลำไส้

ในการดื่มน้ำ ที่เพียงพอ นั้นจะช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยป้องกันอาการ ท้องผูก หากเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็ส่งผลให้ลำไส้ใหญ่ นั้นดึงน้ำไปจากอุจจาระ เพื่อรักษาความชุ่มชื่น จึงเป็นอีสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก

  • ช่วยในเรื่องระบบเผาผลาญ

ซึ่งเป็นตัวการ สำคัญ ในการช่วยให้ปฏิกิริยาเคมี ของกระบวนการเผาผลาญอาหาร และ ไขมันในร่างกายนั้นเป็นไปอย่างปกติ

  • ช่วยในการควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้คงที่ตลอดไป

เพราะใน น้ำ นั้นเป็นที่รู้กันดี ว่าสามารถช่วยระบายความร้อนที่เป็นส่วนเกิน ออกจากร่างกายในรูบแบบของ เหงื่อ ที่ระเหยจากผิวหนัง เพื่อช่วยในการรักษาอุณภูมิของร่างกายให้คงที่

  • ช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง

ในน้ำมีส่วนช่วยในการลำเลียงสารอาหารต่างๆ และกำจัดสารพิษที่เป็นอัตรายต่อร่างกาย และยังช่วยให้อวัยวะต่างๆนั้นทำงานได้อย่างเป็นปกติ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการ เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และรวมไปถึง มะเร็งเต้านมอีกด้วย

การสูญเสียน้ำ

หากร่างกายเรามี การสูญเสียน้ำ รวมทั้งสิ้น 3-5 ลิตร ซึ่งเป็นปริมาณที่ใกล้เคียงกับปริมาณ ที่ได้รับเลยทีเดียว โดยปริมาณของน้ำในร่างกายของคนนั้นไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับอายุ และปริมาณของไขมันในร่างกาย รวมไปถึงกิจกรรมของแต่ละคนด้วย โดยคนที่ทำงานหนัก ทำงานกลางแจ้ง อาจจะสูญเสียน้ำได้ถึง 5-12 ลิตรต่อวัน หรือในภาวะของคนทีมีโรคภัยไข้เจ็บ ก็อาจจะเสียสมดุล ของน้ำในร่างกายได้ง่าย โดยที่ร่างกายนั้นจะสูญเสียน้ำทาง

  • ผิวหนัง โดยมีทั้งที่เรามองเห็น ในรูปแบบของเหงื่อ และน้ำที่ระเหยไปโดยที่เรามองไม่เห็น
  • ปอด โดยการหายใจออก
  • ทางอุจจาระ
  • ทางปัสสาวะ

ควรดื่มน้ำ ปริมาณ มากแค่ไหนใน 1 วัน

ใน 1 วันนั้นเราควรดื่มน้ำให้เป็นนิสัย โดย ผู้ชายนั้นควรดื่มน้ำไม่น้อยกว่า 3.7 ลิตร/วัน และ ผู้หญิงควรดื่มน้ำไม่น้อยกว่า 2.7 ลิตร/วัน วิธีการสังเกตง่ายๆ โดยการสังเกต สีของ ปัสสาวะ ถ้าหากพบว่า ปัสสาวะมีสีเข้มก็แสดงว่าเราดื่มน้ำน้อยไป ถ้าหาปัสสาวะมีสีเหลืองจางๆหรือสีใส ไร้มูกหรือสิ่งเจอปน ถือว่าอยู่ในระดับปกติ

ทคนิคการดื่มน้ำ

  • ปริมาณน้ำที่ดื่มต่อวันคือ 2-3 ลิตร เพราะจะเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
  • การกินผัก ผลไม้ให้มาก เพราะในผักผลไม้นั้นอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และมีส่วนประกอบของน้ำมากกว่าร้อยละ 90 ดังนั้นการกินผักผลไม้ 500 กรัม ก็เท่ากลับการดื่มน้ำ 400 ซีซี
  • ในการดื่มน้ำเพื่อดับกระหายนั้นจะต้องคำนึง ถึงผลกระทบระยะยาวด้วย เพราะในเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยในการดับกระหาย นั้นจะมีปริมาณ ไขมัน และแคลอรี่ที่สูง การดื่มในปริมาณที่มาก และบ่อย ก็จะทำให้เกิดโทษในระยะยาวเช่นกัน
  • ถ้ามีการสูญเสียน้ำมาก หรือ กระหายน้ำมาก แนะนำควนใช้เกลือผสมน้ำเล็กน้อย เพื่อทำให้ช่วยดับกระหาย แต่ก็ไม่ควรดื่มมากเกินไป
  • ไม่ควรดื่มเบียร์ หรือกินน้ำแข็งเพื่อดับกระหาย เพราะจะส่งผลที่เป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหารในระยะยาว ร่างกายออ่นแอ และมีความเย็นตกค้างในร่างกาย และมีของเสียตกค้าง และจะทำให้พลังของร่างกายก็จะลดลง
  • ไม่ควรดื่มน้ำเย็น หรือดื่มน้ำปริมาณมากหลังการกินอาหาร เพราะอาจจะทำให้ไปเจือจางของความเข้มข้น ของน้ำย่อย ส่งผลทำให้ร่างกายไม่ดี และอาจจะทำให้เกิดโรคกระเพาะ
  • ไม่ควรดื่มน้ำรวดเร็วจนเกินไป ในการดื่มน้ำเร็วเกินไปจะมีผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ อาจทำให้หัวใจออ่นแอในระยะยาว เพราะปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ไตนั้นควบคุมการขับน้ำดีไม่ได้ทันใดทันที ก็อาจจะทำให้ปริมาณน้ำในเลือดมากแล้ว ก็ไปเพิ่มภาระการสูบฉีดของหัวใจ

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.paolohospital.com/th-TH/phahol/Article/Details/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%86/10-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%86-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2

ติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ https://girlvariety.com ชุมชนสำหรับผู้หญิง